กระบะจอดตากแดด ร้อนจนไฟลุก

กระบะจอดตากแดด ร้อนจนไฟลุก

เมื่อวานนี้ (7 มิ.ย.) เกิดเหตุรถกระบะของนายนิรุทธิ์ หานเขมร ครูสอนชั้นมัธยม โรงเรียนสกลนครพัฒนศึกษา จ.สกลนคร ไฟไหม้ขณะจอดอยู่เฉยๆ กลางแดด โดยผู้เห็นเหตุการณ์คือ นายสุทธิพร ศรีเพียชัย นักเรียนชั้นม.6

นายสุทธิชัยเล่าว่า ตนกำลังเดินออกจากห้องเรียนวิชาฟิสิกส์ที่อยู่ชั้น 3 เมื่อมาถึงระเบียงก็เห็นมีควันพวยพุ่งออกมาจากรถกระบะสีดำคันหนึ่ง 

ที่จอดอยู่ในลานจอดรถหน้าอาคาร แต่ไม่เห็นเปลวเพลิงแต่อย่างใด ตนจึงรีบไปบอกเพื่อนๆ ก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาบันทึกเหตุการณ์ไว้ จนกระทั่งมีคนวิ่งเข้าไปเปิดประตูรถและช่วยกันดับไฟ ภายในรถมีรอยไฟไหม้เบาะและเพดานของห้องโดยสาร โดยนายนิรุทธิ์ เจ้าของรถไม่ทราบสาเหตุที่น่าจะทำให้เกิดไฟไหม้ นอกจากตนจอดรถไว้กลางแดดตั้งแต่เช้า โดยขณะนี้รถถูกนำไปซ่อมอยู่ ทั้งนี้ นายสุทธิพรได้นำวีดิโอที่บันทึกภาพเหตุการณ์ดังกล่าว ไปโพสต์เผยแพร่ทางเฟสบุ๊กในชื่อผู้ใช้ว่า June Suttiporn โดยบรรยายสั้นๆ ว่า “อย่าว่าแต่ไข่สุกเลย รถก็เกือบสุก ร้อนจัด”

ฉาวโฉ่! ออสเตรเลียจับยาไอซ์ 1.6 ตัน ต้นทางมาจากประเทศไทย ออสเตรเลียจับยาไอซ์จากไทย : เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ทางการออสเตรเลียจับกุมยาไอซ์ได้มากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ จำนวนมากถึง 1.6 ตัน มูลค่า กว่า 3.7 หมื่นล้านบาท ซุกตบตาเจ้าหน้าที่อยู่ในตู้ลำโพงในตู้สินค้า ท่าเรือนครเมลเบิร์น ที่น่าตกใจกว่านั้นคือตู้สินค้านี้ถูกขนส่งมาจากประเทศไทย

ยาไอซ์จัดเป็นยาเสพติดที่พบมากสุดและสร้างความเสียหายมากที่สุดให้กับประเทศออสเตรเลีย เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ยาไอซ์ที่ตรวจพบจำนวน 1.6 ตันครั้งนี้ เท่ากับหรือมากกว่า 13% ของยาเสพติดทั้งหมดในรัฐวิคตอเรียเมื่อปีที่แล้ว นอกจากนี้มีเฮโรอีนประมาณ 37 กิโลกรัมถูกค้นพบในถุงปิดผนึกสุญญากาศภายในลำโพง ตำรวจขอความร่วมมือบุคคลที่ทราบเบาะแสเพื่อหาตัวผู้ทำผิดมาดำเนินคดี

เจ้าของบ้านผวา! บิ๊กเหลือม ยาว 4 เมตร บุกปีนหลังคาหลังบ้านกลางดึก เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น.ของวันที่ 7 มิ.ย.62 เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีงูเหลือมขนาดใหญ่บุกรุกเข้ามาภายในบ้านบริเวณ ซอยเกาะแก้ว1 หมู่ที่ 1 สะปำ ต.เกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต ขอให้ช่วยเหลือจับปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ

หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญการจับงูของมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต 4 นาย นำโดย นายพูลทรัพย์ แซ่อึ๋ง พร้อมอุปกรณ์การจับงูเดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ภายในบ้านเลขที่ 20 /3 พบงูเหลือมขนาดใหญ่หลบอยู่บนหลังคาของห้องครัวหลังบ้าน หลังจากที่พยายามเลื้อยผ่านขื่อหลังคาจนหลอดไฟตกลงมาแตกกระจาย ก่อนไปหลบและโผล่เพียงบางส่วน เจ้าหน้าที่จึงเตรียมอุปกรณ์ ก่อนพยายามใช้ท่อพีวีซีและเหล็กเส้น เขี่ยตัวงูเพื่อให้ส่วนหัวโผล่ออกมา แต่งูเหลือมตกใจพยายามเลื้อยหลบไปบนหลังคา เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจใช้ค้อนทุบกระเบื้องหลังคาส่วนที่ติดกับผนังบ้านออกเล็กน้อย และดึงหางงูเหลือมให้ขยับตัว ก่อนที่งูเหลือมพยายามเลื้อยหนีไปอีกด้านจนส่วนหัวโผล่ เจ้าหน้าที่จึงใช้บ่วงคล้องจับส่วนหัวและดึงตัวลงมาได้สำเร็จ โดยใช้เวลารวมประมาณ 1 ชั่วโมง

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่างูเหลือมตัวดังกล่าวมีความยาวประมาณ 4 เมตร น้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัม โดยเจ้าหน้าที่ได้ใส่กระสอบนำกลับไปพักฟื้นที่ยังมูลนิธิฯ เพื่อเตรียมนำส่งศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าเขาพระแทว ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง เพื่อปล่อยคืนสู่ธรรมชาติต่อไป

พบกระเป๋าต้องสงสัยในซอยทางลงเขาป่าตอง โชคดีไม่มีวัตถุระเบิด พบเป็นกระเป๋าเปล่า

เมื่อเวลา 20.33 น. วันนี้ (7มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์วิทยุ สภ.กะทู้ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบกระเป๋าต้องสงสัยวางอยู่ใต้เสาไฟฟ้าแรงสูง ที่บริเวณปากซอยบุญเอิบ ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบ หลังจากรับแจ้ง เจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.กะทู้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต จากนั้นได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด EOD ภูเก็ต รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุปากซอยดังกล่าว เห็นกระเป๋าเจมส์บอลสีดำวางอยู่ด้านล่างบนพื้นดินติดอยู่กับเสาไฟฟ้าทางเจ้าหน้าที่ได้กั้นพื้นที่ไม่ให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าใกล้ ทางเจ้าหน้าที่ได้เดินเข้าไปดูแต่ไม่กล้าเปิด เนื่องจากคาดว่าภายในน่าจะมีวัตถุต้องสงสัย จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ชุด EDO ได้ให้ชาวบ้านที่จอดอยู่ใกล้เคียงเลื่อนรถออกจากพื้นที่ทั้งหมด ต่อจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ชุด EDO ได้ใช้เชือกไปผูกติดกับกระเป๋าก่อนใช้วิธีการระเบิดตามยุทธวิธีเพื่อเปิดกระเป๋าใบดังกล่าว ปรากฏว่า ภายในกระเป๋าไม่พบสิ่งของใดๆ มีแต่ความว่างเปล่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกระเป๋าใบดังกล่าวไปเก็บไว้ที่ สภ.กะทู้

6 จุดวิกฤติน้ำท่วมในกทม. ห้ามผ่าน! วันนี้ (7 มิ.ย.) ช่วงบ่ายที่ผ่านมามีฝนตกมาอย่างหนักในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร ส่งผลให้มีน้ำท่วมขังหลายจุด มีต้นไม้และเสาไฟล้มจำนวนมาก อีกทั้งยังมีการพยากรณ์จากกรมอุตุฯว่าช่วงเสาร์-อาทิตย์นี้ยังจะมีฝนกระหน่ำอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น มีพื้นที่หลายจุดที่ควรเลี่ยงการสัญจร เพราะเริ่มมีการจราจรติดขัดมากเนื่องมาจากน้ำท่วมและเป็นวันศุกร์ ได้แก่ หน้าสวนจตุจักร ถนนพหลโยธิน ขาออก , ถนนพหลโยธิน ขาเข้า ปากซอยพหลฯ 18 /2 มุ่งหน้าบีทีเอส หมอชิต , ถ.ประชาชื่น หน้า รพ.เกษมราษฏร์ประชาชื่น – ประชานุกูล น้ำท่วมทุกช่องทาง, ถ.รัชดาภิเษก ขาเข้า แยกรัชโยธิน ถึงซอยรัชดาภิเษก 32 , ถ.ลาดพร้าว ปากซอยลาดพร้าว 1 ปากซอยลาดพร้าว 18, แยกรัชดาลาดพร้าว -ซอยลาดพร้าว 23 รวมถึงถนนสายหลัก อย่างถนนวิภาวดี-รังสิต ถนนจรัญฯ และย่านโชคชัย 4